จากการเสวนาเวทีสมัชชาเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา : เวทีกลุ่ม เครือข่าย สภาคณบดีคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย จัดโดยสมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย (สกล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และหัวหน้าโครงการเสริมสร้างพลังอำนาจการจัดการศึกษาที่สร้างสุขภาวะในโรงเรียน กล่าวว่า ประเทศไทยต้องปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ทุกเรื่อง ซึ่งเบื้องต้นได้สังเคราะห์ปัญหาการศึกษาของประเทศ เกิดจาก 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การจัดสรรทรัพยากรมาจากส่วนกลาง ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูงทุกระดับการศึกษา 2.มีการผูกขาดผู้ให้งบประมาณผูกขาดไว้ที่ใดที่หนึ่ง และ 3.รวบอำนาจจัดสรรทรัพยากรไว้ที่เดียว ไม่มีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการก็เปลี่ยนนโยบายโดยไม่สอบถามหน่วยงานผู้ปฏิบัติด้านการศึกษา ทำให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ได้ทันคัดค้านนโยบาย การพัฒนาที่ผ่านมาเป็นการดึงครูออกจากห้องเรียน เป็นการจัดการศึกษาเพื่อตัวเอง เด็กเคลื่อนย้ายเข้าสู่เมือง ห้องเรียนขยายขนาดขึ้นมาก เช่น ร.ร.ขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีขนาดเด็กเกือบ 6,000 คน ในหนึ่งห้องมีนักเรียนมากถึง 63 คน มีเด็กที่สร้างชื่อเสียงมีเพียงร้อยละ 10

รศ.ดร.ประวิตกล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องปฏิรูปคือ ต้องจัดงบฯถึงตัวผู้เรียน ร.ร.มีอิสระในการบริหารจัดการ จัดคูปองการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาส ระบบผลิตครูที่เน้นการปฏิบัติจริง ปรับระบบวิทยฐานะให้สะท้อนผลลัพธ์ที่นักเรียน จัดสรรอัตรากำลังครูหรือบุคลากรทางการศึกษาให้เหมาะสมกับสภาพ ร.ร. ลดขนาดห้องเรียน ร.ร. และกระจายทรัพยากรอย่างเท่าเทียม เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษารอบใหม่สร้างพลเมืองที่มีคุณภาพ ทั้งนี้เวทีสมัชชาเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา : เวทีกลุ่ม เครือข่าย สภาคณบดีคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย จะสรุปข้อเสนอต่างๆเพื่อเสนอรัฐบาลใหม่ต่อไป.

ที่มา ไทยรัฐ 26 มี.ค. 2557